ในปัจจุบันนี้ เรื่องของเข็มขัดนิรภัยเป็นเรื่องที่สำคัญเป็นอย่างมากด้วยทางกรมขนส่งทางบกได้มีประกาศให้รถโดยสารทุกคันจะต้องมีเข็มขัดนิรภัยทุกที่นั่ง เพื่อความปลอดภัยของผู้โดยสารและผู้ใช้ถนน

ทำไมต้องคาดเข็มขัดนิรภัย
      สาเหตุลำดับต้นๆของการออกกฏนี้ก็คือ ความปลอดภัย โดยจากทางสถิติที่เกิดขึ้น พบว่าในแต่ละปีจะมีรถโดยสารสาธารณะขนาดใหญ่ประสบอุบัติเหตุสูงถึง 3-4 พันครั้ง/ปี โดยจำนวน 1 ใน 3 เกิดกับรถโดยสารต่างจังหวัด ส่วนที่เหลืออีก 2 ใน 3 จะเกิดกับรถโดยสารในกรุงเทพฯ โดยข้อมูลจากสำนักอำนวยความปลอดภัย กรมทางหลวง ระบุว่าเฉลี่ยแล้วเมื่อกิเกดอุบัติเหตุกับรถโดยสารสาธารณะ 1 ครั้ง จะมีผู้เสียชีวิต 0.42 ราย บาดเจ็บสาหัส 0.90 ราย และบาดเจ็บเล็กน้อย 2.69 ราย มูลค่าความสูญเสียครั้งละประมาณ 2,300,000 บาท ซึ่งในแต่ละปีมูลค่าความเสียหายจะมหาศาลถึง 8,000-9,000 ล้านบาท โดยมีผลมาจากรถโดยสารมีสภาพไม่พร้อมที่จะให้บริการ ผู้ขับขี่ไม่มีความรู้เรื่องเส้นทาง ฯลฯ

เข็มขัดนิรภัย ช่วยอย่างไร
       เข็มขัดนิรภัยในรถโดยสารสาธารณะไม่ได้มีประโยชน์เฉพาะเมื่อเกิดอุบัติเหตุรถชนด้านหน้าหรือประสานงาเท่านั้น แต่ยังช่วยชีวิตผู้โดยสารได้มากด้วยการยึดรั้งไม่ให้กระเด็นตกจากเบาะที่นั่งไปกระทบกระแทกกับวัตถุสิ่งของภายในรถหรือผู้โดยสารคนอื่นๆ หรือกระเด็นออกมานอกตัวรถในกรณีที่เกิดการพลิกคว่ำที่ถือว่าเป็นอันตรายมากสุดที่เกิดกับรถโดยสารสาสธารณะ ดังนั้นในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุ เข็มขัดนิรภัยจะเป็นอุปกรณ์ลำดับแรกที่จะช่วยรักษาชีวิตผู้โดยสารได้เป็นอย่างดี ดังนั้นการที่รถโดยสารมีเข็มขัดนิรภัยประจำทุกที่นั่งถือว่าเป็นการอำนวยความปลอดภัยให้กับผู้ใช้บริการได้เป็นอย่างดี

ทำความรูจักกับประกาศเข็มขัดนิภัย ของกรมการขนส่งทางบก
      ประกาศกรมการขนส่งทางบก เรื่อง กำหนดแบบเข็มขัดนิรภัยและประเภทของรถตามกฏหมายว่าด้วยการขนส่งทางบกที่ต้องจัดให้มีเข็มขัดนิรภัย มีรายละเอียดดังต่อไปนี้

•     ข้อ 1 ให้กเลิกประกาศกรมการขนส่งทางบก เรื่อง กำหนดแบบเข็มขัดนิรภัยและประเภทของรถตามกฏหมายว่าด้วยการขนส่งทางบกที่ต้องจัดให้มีเข็มขัดนิรภัย พ.ศ. 2555
•  ข้อ 2 เข็มขัดนิรภัยสำหรับรถให้มี 2 แบบ ดังนี้
  •  1 แบบรัดหน้าตักและรั้งพาดไหล่ หรือเข็มขัดนิรภัยแลล 3 จุด
  •  2 แบบรัดหน้าตัก หรือเข็มขัดนิรภัยแบบ 2 จุด
•  ข้อ 3 รถที่ใช้ในการขนส่งผู้โดยสารที่มีจำนวนที่นั่งไม่เกิน 20 ที่นั่ง (เฉพาะรถตู้โดยสาร) ในประเภทการขนส่งประจำทาง การขนส่งไม่ประจำทาง และการขนส่งส่วนบุคคลและรถที่ใช้ในการขนส่งสัตว์หรือสิ่งของทุกประเภทการขนส่ง ที่ผลิต ประกอบ นำเข้า หรือจดทะเบียน ตั้งแต่วันที่ 1 เมาายน 2555 ต้องติดตั้งเข็มขัดนิรภัย
•  ข้อ 4 รถที่ใช้ในการขนส่งผู้โดยสาที่มีจำนวนที่นั่งไม่เกิน 20 ที่นั่ง (เฉพาะรถตู้โดยสาร) ในประเภทการขนส่งประจำทาง การขนส่งไม่ประจำทาง และการขนส่งส่วนบุคคล ที่ผลิต ประกอบ นำเข้าหรือจดทะเบียนไว้ก่อนวันที่ 1 เมษายน 2555 ต้องติดตั้งเข็มขัดนิรภัยให้เป็นไปตามที่กำหนดไว้ในข้อ 3 ให้แล้วเสร็จก่อนวันที่ 1 มกราคม 2556
•  ข้อ 5 รถที่ใช้ในการขนส่งผู้โดยสารที่มีจำนวนที่นั่งไม่เกิน 20 ที่นั่ง (ลักษณะอื่นที่มิใช่รถตู้โดยสาร) และรถที่ใช้ในการขนส่งผู้โดยสารที่มีจำนวนที่นั่งเกินกว่า 20 ที่นั่งในประเภทการขนส่งประจำทางหมด 2 และหมวด 3 การขนส่งไม่ประจำทางและการขนส่งส่วนบุคคลที่จดทะเบียนตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2556 เป็นต้นไป จะต้องติดตั้งเข็มขัดนิรภัย
•  ข้อ 6 รถที่ใช้ในการขนส่งผู้โดยสารที่มีจำนวนที่นั่งไม่เกิน 20 ที่นั่ง (ลักษณะอื่นที่มิใช่รถตู้โดยสาร) และรถที่ใช้ในการขนส่งผู้โดยสารที่มีจำนวนที่นั่งเกินกว่า 20 ที่นั่ง ในประเภทการขนส่งประจำทางหมด 2 และหมวด 3 การขนส่งไม่ประทาง และการขนส่งส่วนบุคคล ที่จดทะเบียนไว้ก่อนวันที่ 1 เมษายน 2556 ต้องติดตั้งเข็มขัดนิรภัยให้เป็นไปตามที่กำหนดไว้ในข้อ 5 ให้แล้วเสร็จก่อนวันที่ 1 เมษายน 2557
•  ข้อ 7 รถที่ใช้ในการขนส่งในประเทภการขนส่งโดยรถขนาดเล็กที่จดทะเบียนตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2537 เป้นต้นไป ต้องติดตั้งเข็มขัดนิรภัย
•  ข้อ 8 รถตามข้อ 3 ข้อ 4 ข้อ 5 และข้อ 6 ที่มีการจัดวางที่นั่งตามความยาวของรถที่นั่งนั้นจะติดตั้งเข็มขัดนิรภัยหรือไม่ก็ได้ ทั้งนี้ต้องอยู่ภายใต้บังคับประกาศกรมการขนส่งทางบกเรื่อง แบบและการจัดวางที่นั่งผู้โดยสารของรถที่ใช้ในการขนส่งผู้โดยสารและรถขนาดเล็ก

     หลังจากได้มีประกาศเรื่องของเข็มขัดนิรภัยของกรมการขนส่งทางบกเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ผู้ประกอบการทุกท่านควรใส่ใจรายละเอียดดังกล่าว โดยนำรถโดยสารเข้าติดตั้งเข็มขัดนิรภัยประจำเบาะโดยาสร เพื่อความปลอดภัยของผู้โดยสาร และในส่วนของผู้โดยสารเองก็ควรเลือกรถโดยสารที่มีเข็มขัดนิรภัยประจำที่นั่ง เพื่อความปลอดภัยของท่านเองด้วยเช่นกัน